yongyuthyang.blogspot.com

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สมาคมม้งชี้แจง

ต่อกระทู้ล่างนี้...

ทีแรก คิดว่าจะให้เป็นการสะท้อนความคิดเห็นเพื่อรับไปพิจารณา แต่มานั่งคิดอีกทีแล้วเห็นว่าถ้าปล่อยให้ผ่านไปเหมือนเมื่อก่อนก็อาจส่งผล เสียมากกว่าผลดี...

ขอชี้แจงบ้างในโอกาสอำนวย.. ขอตีเหล็กตอนที่กำลังร้อนบ้าง...
อย่าถือว่าเป็นการแย้ง.. แก้ตัว... หรือไม่ยอมรับเหตุผลของฝ่ายต่างๆ เลยนะครับ
แต่ มีความจำเป็นต้องชี้แจง และอธิบาย เพราะว่าคุณทัศพลไ้ด้ใช้เวทีนี้เขียนถึงสมาคมม้งเสมือนหนึ่งว่าต้องการฟ้อง สมาคมม้งต่อสาธารณชนว่าสมาคมม้งมีการดำเนินงานที่ไม่โปร่งใสในอดีตที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นองค์กรที่หัวแข็งไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับความคิดของคนรุ่นใหม่

ผมไม่ทราบว่าคุณทัศพล มีปัญหาอะไรกับสมาคมม้งหรือเปล่า ไม่สบายใจในเรื่องอะไรหรือเปล่า ถึงได้มีความคิดแบบนี้ ทั้งๆ ที่คุณทัศพลเองก็อยู่ในกลุ่มงานเอ็นจีโอเหมือนกัน แต่ทำใมจนบัดนี้วิธีคิดจึงยังเป็นแบบนี้

อันดับแรก ต้องขอบอกว่า การพบปะครั้งที่เพิ่งผ่านมานี้เป็นการพบปะที่เสนอโดยคุณเต็ง อย่างที่ผมได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว สมาคมม้งยินดีเป็นเจ้าภาพ หรือเวทีให้ทุกคนได้นำเสนอความคิดเห็น ผมเอง(สมาคมม้ง) ก็ยังไม่ได้เสนอวาระอะไรที่เกี่ยวกับสมาคมม้งเป็นการเฉพาะสำหรับการพบปะ ครั้งนี้ ท่านจึงอาจผิดหวังกับผลการพบปะ เนื้อหาสาระการพูดคุยจึงเป็นไปตามที่ผู้เข้าร่วมต้องช่วยกันกำหนดเอง ในเมื่อท่านไม่ได้เสนอหรือบอกกล่าวในโอกาสที่ท่านอยู่ด้วย คนอื่นก็ไม่รู้ว่าท่านคิดอย่างไร ท่านคาดหวังอย่างไร เมื่อโอกาสครั้งนั้นผ่านไป ท่านกลับมาระบายความรู้สึกให้กับผู้อื่นที่ไม่ได้อยู่ด้วยในที่ประชุม แบบนี้คงไม่ถูกต้อง และผมคิดว่าท่านควรต้องขอโทษกับทุกคนด้วย

แน่นอน ว่าผู้เข้าร่วมแต่ละคนย่อมต้องมีความคาดหวังที่แตกต่างและหลากหลายกันออกไป แต่หากได้นำเสนอในโอกาสนั้นก็สามารถปรับความคาดหวังกันได้

ความ จริงแล้ว การพูดคุยก็มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน แต่ท่านกลับไม่นำมาแบ่งปัน กลับบอกว่าในแง่ลบเสียจนทำให้ผู้ที่ไม่อยู่ด้วยในที่ประชุมต้องสับสนกัน

ความ รู้ แง่คิด ที่ได้จากการพบปะพูดคุย แม้เพียงน้อยนิด แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีสอนในมหาวิมยาลัย นานๆ ทีจะได้รับเป็นบทเรียน อาจไม่มีประโยชน์ต่อท่านแต่อาจมีประโยชน์ต่อคนอื่น

คนที่มาเข้าร่วม ก็ไม่มีการคาดหมายกันหล่วงหน้า แต่เป็นการนัดแนะให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วม เมื่อไม่มีผู้ใดเข้าร่วมเราก็อาจนัดหมายกันใหม่ คนที่ไม่มาก็อาจจะติดขัดดวยเหตุผลของเขา แต่เมื่อท่านมาแล้ว ท่านก็ต้องทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด เมื่อไม่ทำ แต่กลับไปแล้วก็เกิดอยากทำขึ้นมา อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้ข้อยุติ เพราะว่า คุณเต็ง ก็ไม่มีโอกาสชี้แจง สมาคมม้งเอง ก็ไม่มีโอกาสชี้แจง ท่านให้เข้าใจ และที่สำคัญท่านไม่มีโอกาสพูดในสิ่งที่ท่านอยากพูด หรือเป็นเพราะว่าคนมาน้อยท่านเลยไม่อยากพูด อย่างนี้หรือที่ท่านเรียกว่าถูกครอบงำความคิด ต้องคิดดูใหม่

อยาก ถามสักนิดว่า กับเวทีที่มีคนเพียงแค่ 4 คน ท่านยังไม่กล้าเสนอความคิด แล้วท่านจะกล้านำเสนอความคิดของท่านในเวทีที่ใหญ่กว่านี้ได้อย่างไร คนแค่ 2-3 คน มีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนท่าน ท่านก็หาว่าถูกครอบงำ ไม่ได้แสดงความคิดเห็น แล้วถ้าในที่ประชุมใหญ่ คนเป็นร้อย เป็นพัน มีความคิดเห็นที่แตกต่างจากท่าน ท่านจะอยู่บนท่มกลางความคิดเห็นที่แตกต่างเหล่านี้อย่างไร

การที่ท่านมากล่าวหาเกี่ยวกับงานของสมาคมม้งในอดีตในที่นี้ เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทำให้สมาคมม้งเสียหาย แสดงว่าท่านไม่เคยแสวงหาคำตอบว่าที่พวกพี่ๆ เขาทำอย่างนั้นเพราะอะไร มีใครที่ร่ำรวยจากกิจกรรมเหล่านั้นบ้าง เมื่อโครงการจบ ทุกคนก็แยกย้ายกันไป ผมไม่เห็นว่ามีใครได้รถ ได้บ้าน เมื่อหมดโครงการสักคน มีแต่ต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ทั้งนั้น มีแต่พวกคุณนั่นแหละได้รับความรู้และอยู่รอดจนจบการศึกษา (เสียใจที่ว่าแทนที่จะขอบคุณพวกเขาเหล่านั้น แต่กลับมีความระแวงว่าพวกเขาแอบตักตวงผลประโยชน์จากพวกคุณ) ให้กลับไปทบทวนว่าตัวเองได้รับคุณประโยชน์อะไรบ้างจากสมาคมม้ง ถ้ายังคับข้องใจอยู่ อยากบอกว่าพวกพี่ๆ ที่เคยร่วมทุกข์ร่่วมสุขจัดกิจกรรมต่างๆ นาๆ อดหลับอดนอนกับพวกคุณนั้น ทุกคนก็ยังอยู่ ที่ที่อยู่ มีตัวตน ไม่ได้หนีหายไปไหน ทุกคนยังหาเช้ากินค่ำเหมือนเดิม สมาคมม้งเองก็ไม่ได้เงินทองอะไรจากการจัดกิจกรรมให้พวกคุณ สมาคมม้งก็ยังไม่มีเงิน ไม่มีทุนสำหรับทำงานกับคนยากจนอยู่เหมือนเดิม ยังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่อีกมากมาย แล้วพวกคุณละไปอยู่ไหนหมด...

การ ที่สังคมไม่เข้าในสมาคมม้ง ก็อาจเป็นเพราะพวกเขาคิดแบบคุณนี้แหละ....การชี้แจงไม่เกิดประโยชน์ หากว่าทุกคนยังคิดแบบนี้ สังคมแบบคุณ น่าจะเข้าใจสังคมของคุณให้ถ่องแท้ ไม่มีใครช่วยสังคมได้นอกจากสังคมจะช่วยตนเอง (สมาคมม้งไม่สามารถช่วยสังคมได้โดยลำพังอยู่แล้ว) สมาคมม้ง ก่อตั้งขึ้นมา ตามวัตถุประสงค์หนึ่ง เมื่อบรรลุซึ่งวัตถุประสงค์แล้ว ก็ต้องมีกันเลิกราจากกันไป สมาคมม้ง ทำโครงการขึ้นมาโครงหนึ่ง เมื่อสำเร็จลุล่วงตามโครงการแล้ว ก็ต้องเลิกรากันไป แต่สังคมฯ ยังคงอยู่ ต้องช่วยเหลือกันเองต่อไป คุณเป็นหน่วยหนึ่งในสังคมไหน ก็มีภาระหน้าที่กับสังคมนั้นต่อไป ความจริงแล้วสมาคมม้งจะทำงานต่อไปได้หรือไม่ คุณก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ที่เขียนอย่างนี้ไม่ได้กีดกัน หรือห้ามคุณยุ่งเกี่ยวกับสมาคมม้ง แต่อยากบอกว่าถ้าคุณต้องการช่วยเหลือสังคมคุณก็สามารถทำได้ไม่จำต้องผ่านสมา คมม้ง เพราะถ้าผ่านสมาคมม้งแล้วดูเหมือนเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ คุณสามารถทำในสิ่งที่ง่ายที่สุด ไม่จำต้องมีระบบของคนอื่น (เอาตามระบบของคุณ) ขอเพียงสังคมได้ประโยชน์จากการกระทำของคุณ แค่นี้สมาคมม้งก็ยินดีแล้ว และถ้าหากทุกคนสมารถทำอย่างนี้ได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีสมาคมม้ง หรือหน่วยงาน องค์การใดอีกต่อไป

สมา คมม้ง เป็นองค์กร มีโครงสร้าง ระบบ กฎระเบียบ และมีกฎหมายควบคุม ถ้าหากคุณไม่ยอมศึกษา ก็จะไม่รู้เองอย่างแน่นอนว่าสมาคมม้งเป็นอย่างไร จะเปลี่ยนแปลงต้องใช้องค์ประกอบอะไรบ้าง และมีวิธีการ ขั้นตอนอย่างไร อย่าว่าแต่คุณเลยที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วทำไม่ได้ แม้แต่ผมเองก็ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง จะว่าไปนี่อาจเป็นปัญหาอย่างที่คุณว่า แต่ในอีกแง่หนึ่งนี่ก็เป็นหลักประกันความเป็นองค์กรของสมาคมม้งว่ามีความแน่ นอนในระดับหนึ่ง จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ โดยปราศจากเหตุผลที่เพียงพอ หน่วยงานหรือองค์กรภายนอกก็เกิดความมั่นใจในการร่วมงานกันด้วย ไม่ใช่ร่วมกันไม่เท่าไหร่ ก็เปลียน หรือเลิกรากันไปง่ายๆ

แต่หาก สมาคมม้งเปลี่ยนได้ตามที่คุณเสนอ คุณเองก็อยากให้สมาคมม้งอยู่ในสถาพแบบที่คุณเสนอให้นานที่สุดใช่หรือไม่ คนอื่นจะมาเปลี่ยนแปลงอย่างง่ายๆ คุณก็คงไม่ยอม ฉันใดก็ฉันนั้น  หากต้องการวิพากษ์สมาคมม้ง ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ถึงความเป็นมาและโครงสร้างของสมาคม มิเช่นนั้นก็ป่วยการ เพราะผู้วิพากษ์ ไม่มีความรู้ในเรื่องที่ตนวิพากษ์เลยแม้แต่น้อย ถ้าต้องการเรียนรู้จากสมาคมม้ง ก็ยินดี แต่ไม่ใช่ว่าตัวเองมีธงอยู่ในใจว่าสมาคมม้งเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ เพราะคนที่เป็นคนอย่างนี้ก็เปรียบเสมือนแก้วน้ำที่มีนำเต็มถ้วยอยู่แล้ว รินเข้าไปเท่าไหร่ก็มีแต่จะล้นออกมาเท่านั้น ไม่สามารถรองรับน้ำได้อีกต่อไปแล้ว.

ก่อนนี้ผมก็ให้เกียรติและเคารพ ในความคิดของคุณ และทุกคนที่วิพากษ์วิจารณ์สมาคมม้ง แต่จากนี้ไปผมจะไม่เกรงใจอีกต่อไป สิ่งไหนที่ไม่ถูกต้อง ผมก็จะชี้แจง พร้อมทั้งตอบโต้ตามสมควร สิ่งไหนที่เป็นข้อบกพร่องของสมาคมม้ง ผมก็น้อมรับและขอบคุณ ก็ว่ากันไป

ผมพร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ....ผมเองก็ค่ิอนข้างนิยมชมชอบความคิดของคนรุ่นใหม่.... และก็เฝ้ารออยู่ว่าเมื่อไหร่คนรุ่นใหม่ของเราจะมาถึงซะที...

ถ้าคน รุ่นใหม่ไม่รู้วิธีการเปิดตัวเอง... ผมก็ขอเสนอแนะว่า ลองใช้วิธีเดียวกับคุณเต็ง ซิครับ.... เสนอมาเลยว่ามีประเด็นสำคัญอยากให้คนอื่นมารับฟังดัวยกัน เตรียมตัวมา เตรียมข้อมูลมา นัดแนะเวลากันมา จะใช้ที่สมาคมม้ง ก็ได้ ใช้ที่ไหนก็ได้ ขะขอให้ใครซึ่งตัวเองยอมรับเป็นเจ้าภาพเชื้อเชิญ หรือประชาสัมพันธ์ ก็ได้ ... วิธีนี้ก็อาจใช้ได้...หรือจะมีวิธีคิดแบบของคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจกว่าก็ได้ ....ทำให้สมาคมม้งยอมรับให้ได้ซิครับ.... ทำให้สังคมยอมรับให้ได้ซิครับ... ขณะที่คุณมีสมาคมม้งอยู่ที่นี่ แต่คุณไม่ใช้สมาคมม้ง คุณจะใช้หน่วยงาน องค์กร หรือกลไกไหนก็ใช้ไปเถอะ ไม่มีใครห้ามคุณหรอกครับ... แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่ามาโทษสมาคมม้ง ก็แล้วกัน

ลองคิดดูใหม่

ยงยุทธ สืบทายาท
ผู้อำนวยการสมาคมม้ง

ไม่มีความคิดเห็น: