yongyuthyang.blogspot.com

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สมาคมม้งกับการให้และการรับ

บทนี้จะขอเขียนให้ตรงกับใจหลายท่านเลยว่า แล้วสมาคมม้งจะเป็นผู้รับได้อย่างไร ถ้ามีผู้พร้อมจะให้



ก่อน อื่นผมต้องขอออกตัวก่อนว่าผมเองนั้นไม่ใช่คนมีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่าใคร บางครั้งก็อดมื้ออิ่มมื้อเช่นกัน กระนั้นก็ตามผมก็ไม่ถึงกับเดือดร้อนจนไม่สามารถอยู่ได้ ผมมีพี่สาวที่ใจดีมาก มีน้องชายที่รักผมมาก พวกเขาคอยช่วยเหลือค้ำจุนและเป็นกำลังให้ผมตลอดมามิขาดสาย บางทีมาคิดดูแล้วภาพของผมเองในสายตาคนอื่นจึงคิดว่าผมมีฐานะทางเศรษฐกิจดี และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครจะให้ความช่วยเหลือสมาคมม้งเท่าไหร่นักเพราะผมเป็น ผู้อำนวยการอยู่ จึงเหมือนกับว่าสมาคมม้งเมื่อสามารถจ้างผมได้ก็แสดงว่าสมาคมมีเงินมาก แต่ความจริงแล้วอยากบอกว่าผมไม่ได้รับเงินเดือนโดยตรงจากสมาคมม้งแม้แต่บาท เดียว ผมแค่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารสมาคมม้งในโอกาสที่ผมสามารถทำงานให้กับสมาคมม้ง ควบคู่ไปด้วยกันเท่านั้นโดยผมรับเงินค่าตอบแทนจากศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมาย แก่ชาวไทยภูเขา (ชกข.) ซึ่งสนับสนุนโดยองค์การอิโก้ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่ออิโก้ ไม่ให้การสนับสนุนต่อไปศูนย์ฯ ไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ผมก็ต้องแสวงหารายได้ตามวิชาชีพของผมต่อไป ในขณะเดียวกันก็ยังคงต้องรับผิดชอบสมาคมม้งด้วย ส่วนคนทำงานระดับรองลงไปต่างก็แยกย้ายกันไปตามที่แต่ละคนต้องการต่อไป


เริ่มกันต่อที่สมาคมม้งเลย ถ้าถามว่าสมาคมม้งมีความจำเป็นมากน้อยขนาดไหนในการขอรับบริจาค หากผมบอกว่าไม่มีความจำเป็น ก็จะทำให้สมาคมม้งต้องสูญเสียโอกาส หากผมว่ามีความจำเป็นก็ต้องถามต่อว่าจำเป็นอะไร และจะทำอะไร เท่าไหร่ ทำอย่างไร ที่ไหน กับใคร  ฯลฯ ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสมาคมม้ง ไม่ว่าในระดับไหนก็ตามย่อมต้องตอบว่าจำเป็น ซึ่งแน่นอนว่าต้องสามารถบอกถึงความจำเป็นดั่งที่ว่ามานี้ด้วย



ผมได้ผ่านการเรียนรู้เรื่องการระดมทุนมาบ้างแต่ยังไม่เคยนำมาใช้ และยอมรับว่าไม่มีทักษะทางด้านนี้ ที่รู้ก็เป็นเพียงแค่ผิวเผิน จากที่รู้มาการระดมทุนในองค์กรศาสนาประสบความสำเร็จสูงมาก แต่การระดมทุนเพื่อช่วยเหลือสังคมในภาวะปกติจะยากที่สุด ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนนี้ต้องใช้เวลาและมีต้นทุนเป็นของตนเองอย่างสูง แม้แต่แหล่งทุนเองที่ระดมทุนอยู่ตลอดเวลาก็ประสบกับปัญหาการระดมทุน หลายองค์กรก็ต้องปิดตัวไป ที่อยู่ได้ก็จะเป็นแหล่งทุนที่ได้รับการอุดหนุนโดยตรงจากรัฐบาลของเขา


ความเป็นสมาคม ความเป็นองค์กร หน่วยงาน จึงเป็นภาพที่ชัดเจนหนึ่งของการขอรับบริจาค แต่การขอรับบริจาคนี้ไม่ได้มุ่งประสงค์เพื่อตนเอง แต่เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมตามวัตถุประสงค์อีกต่อหนึ่งบนความเชื่อที่ว่า การที่คนๆ เดียวจะช่วยเหลือสังคมนั้นอาจมีกำลังไม่พอ แต่หากหลายๆ คนมาช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย รวมๆ กันแล้วก็จะได้มากที่จะนำไปช่วยเหลือสังคมได้ อีกอย่างคงไม่มีใครที่จะให้เงินแก่นายยงยุทธ เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมแทนพวกเขาหรอก แต่ถ้าให้กับองค์กร หน่วยงาน พวกเขาก็ยินดีให้



ดัง นั้นอย่าสงสัยเลยว่าพวกเราก่อตั้งสมาคมม้งทำใมกัน ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหาร หรือกรรมการ สมาคมม้งก็คือองค์กรที่รอรับบริจาคเงินจากผู้มีใจต้องการช่วยเหลือผู้อื่น อยู่ดี ถ้าหากว่าท่านรู้จักสมาคม เชื่อถือและศรัทธาในตัวสมาคม ท่านก็คงไม่ลังเลที่จะบริจาคตามจิตศรัทธาของท่าน แต่หากท่านยังไม่รู้จักสมาคม ท่านก็คงต้องมีคำถามหรืออย่างน้อยท่านก็ต้องรู้จักสมาคมก่อนไม่ว่าจะโดยวิธี ใดก็ตาม สมาคมมีวัตถุประสงค์ หรือกิจกรรมใดที่อยู่ในข่ายที่ท่านต้องการบริจาคหรือไม่ สมาคมเองหากต้องการขอรับบริจาคก็ต้องมีความชัดเจนว่าจะขอรับบริจาคเพื่อไปทำ อะไร มีหลักเกณฑ์และรายละเอียดพอประมาณอย่างไร คงไม่มีองค์กร หรือหน่วยงานไหนเดินดุ่มๆ เข้าไปแล้วขอรับบริจาคเงินจากเขาโดยไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาไปทำอะไร จะมีก็แต่เฉพาะผู้บริจาคเท่านั้นที่สามารถบริจาคให้องค์กรหรือหน่วยงานใดก็ ได้โดยที่มีระบุจุดประสงค์ของการใช้เงิน โดยให้แล้วแต่องค์กรหรือหน่วยงานจะพิจารณาตามเหมาะสมและจำเป็น กรณีนี้มีน้อยมาก และจะมีได้ก็เฉพาะแต่องค์กรหรือหน่วยงานที่มีต้นทุนความน่าเชื่อถือสูงส่ง ยิ่งเท่านั้น



การ บริจาคนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การให้หรือการทำบุญ แต่เป็นทำหน้าที่อย่างหนึ่งของพวกเราทุกคนด้วย ผมเคยได้ยินนักพัฒนาอาวุโสท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ในเวทีขององค์กรระหว่างประเทศครั้งหนึ่งมีการถกเถียงกันระหว่างประเทศพัฒนา แล้วกับประเทศด้อยพัฒนา โดยประเทศที่พัฒนาแล้วถามในที่ประชุมว่า ทำไมเขาต้องช่วยเหลือประเทศที่ด้อยพัฒนากว่าด้วย ในที่ประชุมไม่มีใครตอบได้ ในที่สุดประธานก็พูดกับที่ประชุมว่า ...นี่เป็นหน้าที่ของเราทุกคนไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของโลกใบนี้เราต่างมี หน้าที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การที่เราช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้หมายความว่าเขาต่ำต้อยกว่าเรา แต่เพราะว่านี่เป็นหน้าที่ของเรา หากคุณไม่ช่วยเหลือเขาพวกเขาย่อมมีสิทธิเรียกร้องจากคุณ... และนี่เป็นอีกหนึ่งที่คนทำงานพัฒนามีความกล้าที่จะไปเสนอโครงการจากใครก็ได้ การที่เขาให้เงินเราก็เหมือนกับเราได้ช่วยเหลือให้เขาได้ทำหน้าที่ความเป็น มนุษย์ของเขาให้สมบูรณ์อีกทางหนึ่ง


หากมองในแง่นี้ สมาคมม้ง จึงเป็นตัวแทน หรือสื่อกลางทางเลือกสำหรับทุกท่านในการทำหน้าที่ของผู้ที่พัฒนาแล้ว และผู้ที่ยังต้องการการพัฒนาตนเอง สมาคมม้งอาจไม่ใช่ผู้รับอย่างที่ท่านเข้าใจก็เป็นได้ และที่แน่ๆ สมาคมม้งก็ไม่ใช่ผู้ให้ แต่เป็นเพียงแค่ตัวกลางหรือกลไกเชื่อมโยงระหว่างผู้ให้กับผู้รับเท่านั้นเอง ทั้งนี้เพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าหากผู้ให้ใดสามารถให้กับผู้รับได้โดยตรงก็ยิ่งเป็นการดีกว่าการให้โดยผ่านผู้อื่น ดังนั้นหากว่าเราคิดจะให้สิ่งดีๆ แก่ผู้ใดก็อย่าให้สมาคมม้งเป็นอุปสรรคแห่งการให้ของเราเลยครับ แต่จงให้ด้วยความยินดี แล้วผู้ให้ก็จะมีแต่ความสุข แต่ถ้าท่านคิดจะให้โดยผ่านสมาคมม้ง สมาคมม้งก็ยินดี


ยงยุทธ

ไม่มีความคิดเห็น: